‘ทอง พระ เพชร และวัตถุมงคล’ สารพันเรื่องราวของเหล่าเครื่องประดับจาก VANDA’S ร้านเครื่องประดับอันมีเอกลักษณ์แห่งเมืองกรุงเก่าพระนครศรีอยุธยา ที่เราอยากเชื้อเชิญให้คุณมาทำความรู้จักกันแบบลึกซึ้ง ผ่านบทสนทนาของ  ‘เกรียงศักดิ์ รัตนานนท์’ CEO ผู้นิยามตัวตนของ VANDA’S ว่าเป็นนักสะสม และนักออกแบบที่พร้อมสร้างสรรค์เครื่องประดับผ่านนวัตกรรมหรือการดีไซน์ให้มีความร่วมสมัย ตอบโจทย์ผู้ที่หลงใหลในความสวยงามรวมถึงคุณค่าของเครื่องประดับ และอีกสิ่งหนึ่งที่ลูกค้าของเราจะได้กลับไปคือความภาคภูมิใจอันเต็มเปี่ยม… หากอยากรู้จัก VANDA’S ให้มากกว่านี้มาตามอ่านเรื่องราวของเราไปพร้อมกันที่นี่เลย!

คิดว่าเสน่ห์หรือเอกลักษณ์ ของเครื่องประดับ VANDA’S คืออะไร

“จุดเด่นของเราเลยคืองานทำมือและงานดีไซน์ เริ่มต้นจากเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน การทำเครื่องประดับเกี่ยวกับวัตถุมงคลส่วนใหญ่ เขาจะไม่ได้คำนึงถึงความจำเป็นของการดีไซน์ แค่งานเลี่ยมทองหรือทำเป็นอะไรก็ได้ที่เราใส่ได้ แค่นั้นพอ จนมาถึงยุคหนึ่งผมคิดว่ามันน่าจะมีอะไรที่เราสร้างสรรค์ได้มากกว่านั้น สิ่งหนึ่งที่ผมคำนึงตลอดในการที่ผมจะทำเครื่องประดับคือ ผมคำนึงว่ามันจะต้องมีนวัตกรรม การที่เราสร้างสรรค์เครื่องประดับจากการที่เราออกแบบดีไซน์หรือทำให้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิม ผมมั่นใจว่ามันจะให้โลกเราเจริญขึ้น อันนี้คือสิ่งที่ผมยึดถือมาตลอดว่าลูกค้าต้องได้อะไรบางอย่างจากการที่เราทำเครื่องประดับให้กับเขา เสน่ห์ของเราอีกอย่างหนึ่งคือ ร้านเราไม่ได้แค่ขายแค่เครื่องประดับเพื่อเพียงสวมใส่ให้สวยงามเท่านั้น แต่ผมมองว่าเครื่องประดับของเราเปรียบเสมือนงานศิลป์ที่ควรค่าแก่การสะสม”

สิ่งที่คิดว่าลูกค้าจะได้รับเมื่อเป็นเจ้าของเครื่องประดับ VANDA’S

“แน่ ๆ เลยคือลูกค้าจะได้เครื่องประดับที่สร้างความมั่นใจให้กับเขาได้ เพื่อที่จะเอาไปใส่ในงานต่าง ๆ เราพัฒนาเครื่องประดับจากการที่เราใช้ Element ของความเป็นไทยมาประดับตกแต่งอยู่ในเครื่องประดับ ทั้งงานวัตถุมงคล งานทองโบราณ หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เป็นเครื่องประดับร่วมสมัย เรามีความตั้งใจจะส่งต่อทั้งความสวยงามและคุณค่าไปให้ลูกค้าของเรา และอีกสิ่งหนึ่งที่เขาจะได้กลับไปคือความภูมิใจ เพราะเครื่องประดับของเราสามารถส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นได้ในยุคถัด ๆ ไป ลูกหลานเขาจะภูมิใจกับสิ่งที่เขาได้รับ ผมมั่นใจว่าเครื่องประดับผม ทำเพื่อให้ลูกค้าใส่ได้เป็นระยะเวลานาน เหมือนเป็นงานร่วมสมัย อันนี้คือสิ่งที่เราภูมิใจที่เราจะส่งมอบให้กับลูกค้าเสมอครับ”

หากมองมุมที่กว้างกว่านั้น VANDA’S ช่วยจรรโลงสังคมในมิติใดได้บ้าง

“ใจความหลักในงานของเราคือ การอนุรักษ์ เราอนุรักษ์ความเป็นช่างฝีมือครับ เราสร้างช่างมาหลายคนตั้งแต่เขาอายุน้อย ๆ จนปัจจุบันก็อายุ 40-50 ปีขึ้นไปแล้ว เขาก็ยังอยู่กับเรา ฝีมือเขาก็พัฒนาขึ้น คนกลุ่มนี้เขาเริ่มเป็นครูอาจารย์ที่จะส่งต่องานฝีมือของเขาให้แก่รุ่นลูกรุ่นหลานเขาแล้วครับ ผมว่าเครื่องประดับของเราจะช่วยยกระดับงานช่างไทย ยกระดับงานฝีมือของช่างในท้องถิ่น รวมถึงสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนด้วย ความตั้งใจของ VANDA’S คือเราต้องการที่จะสืบสานงานศิลปะ งานวัฒนธรรมการทำทองของไทยให้มันสืบต่อไปในยุคถัด ๆ ไป”

“สิ่งหนึ่งที่เรายังคงรักษาคือ Element ของการเป็นงานทองไทย ซึ่งยังอยู่ในชิ้นงานของเรา แต่มันจะเปลี่ยนไปตามรูปแบบความร่วมสมัย ให้เด็กยุคถัด ๆ ไปก็ยังมีประสบการณ์สัมผัสว่า อ้อ! นี่ชิ้นงานไทยนะแต่ก็ใส่ได้ในทุก ๆ มิติของงาน คือการที่เราทำแต่แบบโบราณ ๆ มา อันนั้นคือการอนุรักษ์แบบหนึ่ง แต่การที่เราดัดแปลง ประยุกต์ หรือใส่นวัตกรรมเข้าไปในชิ้นงานของเรา มันก็ถือเป็นการอนุรักษ์อีกแบบหนึ่ง ให้คนทั้งโลกได้เห็นว่า เครื่องประดับมันไม่ได้มีแค่งานทองโบราณนะ มันมีงานที่สามารถประยุกต์และใส่ในชีวิตประจำวันได้อีกเยอะเลย มันจะแทรกซึมไปในทุกมิติในการใช้ชีวิตได้ และจะไม่เลือนหายไป”

มองทิศทางในอนาคตของ VANDA’S ต่อจากนี้อย่างไร

“สำหรับการออกแบบดีไซน์ ผมมองว่าไม่จำเป็นจะต้องทำให้มันโบราณเสมอไป การออกแบบต้องมีนวัตกรรม ต้องมีความร่วมสมัย อันนี้คือสิ่งที่เรานำเข้ามาในยุคสมัยนี้ครับ การใส่เครื่องประดับจะไม่เหมือนยุคเก่าก่อนที่เขาจะใส่กันแบบชิ้นใหญ่ ๆ หรืออะไรก็ตาม ตอนนี้มันต่างไปแล้ว คือเราออกแบบให้เล็กมินิมอลก็ได้ในสไตล์ที่เป็นไทย อันนี้คือสิ่งที่เราพยายามพัฒนาอยู่เสมอ พัฒนาเครื่องประดับสู่ความร่วมสมัย และความเป็นสากลมากขึ้นครับ”

“เราเองก็เดินทางบนถนนสายเครื่องประดับมาจะ 20 ปีแล้วเนอะ เราอยู่มาพอสมควร สิ่งหนึ่งที่ยากสำหรับที่อื่น ๆ คือ การทำให้เรายังดูเด็กอยู่เสมอ ด้วยตัวตนของเราเกิดจากการที่เราเป็นนักดีไซน์ เป็นนักสะสมนะครับ เพราะฉะนั้นในยุคถัด ๆ ไป ไม่ว่าจะยุคสมัยใดก็ตามเครื่องประดับก็ยังคงอยู่แหละ เพียงแต่ว่าเราจะพัฒนาไปแบบไหน คือเราก็ต้องพัฒนาเพื่อให้เป็นของที่เขาสามารถสวมใส่ได้ และก็สามารถส่งต่อไปยังรุ่นถัด ๆ ไปได้อีก อันนี้คือมุมมองในการทำเครื่องประดับในอนาคตของเรา”