“การฉลุทอง” หนึ่งในเทคนิควิธีโบราณของการนำทองคำมารังสรรค์เป็นงานประณีตศิลป์ นับเป็นภูมิปัญญาที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยมีอาวุธสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือเลื่อยหรือตะไบ เพื่อใช้สำหรับเจาะลงไปบนพื้นผิวของทองและปรุให้เกิดเป็นรูหรือช่องว่าง จนเกิดเป็นลวดลายต่าง ๆ โดยเรียกลายนั้นว่า “ลายฉลุ”
ส่วนลายที่นิยมนำมาฉลุลงบนเครื่องประดับทองคำส่วนใหญ่มักจะเป็นลายไทย เช่น ลายกระหนก ลายกระจัง และลายธรรมชาติอย่างดอกไม้ เถาวัลย์ เพราะนอกจากจะสวยสง่างามและสะท้อนถึงความอ่อนช้อยแล้ว ยังสื่อความหมายที่ดีเป็นมงคล สอดคล้องกับความเชื่อของคนไทยในทุกยุคสมัยอีกด้วย
ทั้งนี้ การนำเทคนิคฉลุลายเข้ามาใช้กับเครื่องประดับทองคำ ต้องอาศัยช่างที่มีความชำนิชำนาญเพราะต้องเก็บรายละเอียดค่อนข้างเยอะมาก เพื่อให้ชิ้นงานออกมาสวยประณีตมากที่สุด ส่วนจุดเด่นหรือเอกลักษณ์ของงานทองคำฉลุลายคือ ความนุ่มนวล พลิ้วไหว และความรู้สึกโปร่งเบา เพราะเป็นการลดน้ำหนักทางสายตาได้เป็นอย่างดีเมื่อมองผ่านส่วนที่เป็นช่องว่าง นอกจากนี้ ยังเป็นการเพิ่มมิติให้กับชิ้นงาน ช่วยให้ลวดลายดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดน้ำหนักของชิ้นงานให้เบาลงได้อีกด้วย หากใครที่ชอบงานเครื่องประดับทองคำที่สวย ประณีต สวมใส่ง่ายและไม่ดูเทอะทะแล้วล่ะก็ การนำเทคนิคฉลุลายมาประยุกต์ใช้ถือว่าตอบโจทย์เลยทีเดียว
สำหรับเครื่องประดับของ VANDA’S ก็ได้นำเทคนิคการฉลุลายมาใช้สร้างสรรค์เป็นชิ้นงานสุดวิจิตรเช่นกัน นั่นก็คือ “กำไลเครือทอง” กำไลทรงกลม ดีไซน์แบบทรงโดนัท โดดเด่นด้วยการฉลุทองคำ 99.99% เป็นลายเถาวัลย์หรือเครือเถาสุดพลิ้วไหวที่เชื่อมต่อกันแบบเต็มวง แรงบันดาลใจของลวดลายมาจากไม้เลื้อยมงคลของไทยที่สื่อถึงความเจริญรุ่งเรืองอย่างไม่สิ้นสุด เส้นสายของทองคำตวัดวาดอ่อนช้อยราวกับพรรณไม้ที่มีชีวิตกำลังเลื้อยลอดอยู่บนรอบข้อมือ พร้อมผสานการเดินลายเกลียวลวดให้ลวดลายยิ่งคมชัด สะดุดตายิ่งขึ้น
ขนาดหน้ากว้างของกำไลแบ่งออกเป็น 3 ขนาด คือ 8 มม. 10 มม. และ 12 มม.เอาใจลูกค้าที่ชอบทั้งหน้าเล็กและหน้าใหญ่ จะใส่แบบวงเดี่ยวหรือใส่แบบคู่ก็สวยเก๋ไม่ซ้ำใคร แถมยังสวมใส่ง่าย ด้วยนวัตกรรมการดีไซน์แบบกำไลผ่าครึ่ง เปิด-ปิดแบบสปริงล็อค 2 ชั้น เรียกว่าตอบโจทย์การใช้งานของคนทุกรุ่น ที่นอกจากจะได้ใส่กำไลทองคำดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์แล้ว ยังถือเป็นการช่วยสืบสานงานทองคำไทยโบราณให้คงอยู่สืบไปอีกด้วย
“Timeless Precious สืบสานศิลป์ทองไทย ใส่กำไลเครือทอง”